วันนี้ (2 ก.ค.) นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เผยถึง เรื่องที่เหตุการณ์เรือฟีนิกซ์ล่มเมื่อ 5 ก.ค.ปีที่แล้วว่า จะไม่มีการจัดงานหรือกิจกรรมใดๆ เนื่องจากไม่ต้องการรื้อฟื้นเหตุการณ์ขึ้นมา เพราะเป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น
เหตุการณ์เรือฟีนิกซ์ล่มนี้ ได้คร่าชีวิตนักท่องเที่ยวชาวจีนไปถึง 47 ราย และมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง
ในด้านของคดีนั้น นายภัคพงศ์กล่าวว่าคดียังอยู่ในกระบวนการยุติธรรม มีการส่งฟ้องศาลไปแล้ว และยังรอผลจากพนักงานสอบสวน ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เข้ามาควบคุมและเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนเองเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับทางการจีนว่า ทางการไทยได้ให้ความสำคัญและดำเนินการตามกฎหมายอย่างเฉียบขาดและเคร่งครัด อย่างไรก็ตาม คดีนี้มีพยานประมาณ 100 ปาก จึงใช้เวลานาน ขณะนี้สอบปากคำไปแล้ว 60 ปาก
ส่วนมาตรการการสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยการท่องเที่ยวทางน้ำนั้น ยังคงเคร่งครัดอย่างต่อเนื่อง เช่น การจัดเจ้าหน้าที่ประจำจุดเช็กพอยต์บริเวณท่าเทียบเรือต่างๆ และก่อนที่นักท่องเที่ยวจะลงเรือจะต้องมีการลงทะเบียน อีกทั้งมีการตรวจสอบอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยภายในเรือ อย่างเรื่องสภาพเรือ จำนวนเสื้อชูชีพ ความแข็งแรงของโป๊ะ เป็นต้น และมีการตรวจสารเสพติและแอลกอฮอล์ของบุคลากรในเรือด้วย ด้านซากเรือฟีนิกซ์นั้น มีการกู้ขึ้นมาแล้ว และขึ้นคานอยู่ที่รัตนชัยคานเรือเพื่อเก็บรักษาเป็นพยานหลักฐาน
เมื่อคืนวานนี้ (1 ก.ค.) เกิดเหตุรถยนต์เสียหลักพุ่งชนต้นปีปบนเกาะกลางถนน บริเวณถนนปราจีนธาณี (ปราจีนบุรี – ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช) กม.2 บ้านเนินดินแดง จ.ปราจีนบุรี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย โดยเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 2 รายคือ น.ส.รัตนาภรณ์ อายุ 19 ปี สภาพศพคอหัก และนายณัฐพล อายุ 28 ปี สภาพศพกะโหลกศีรษะด้านข้างถูกกระแทกจนเปิด ส่วนนายอิทธิ อายุ 25 ปี เป็นคนขับขี่ ได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา
นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 5 รายคือ ด.ญ.ณัฐชยา อายุ 14 ปี, นายโชคชัย อายุ 28 ปี , เด็กหญิงกุลพิทา อายุ 14 ปี, นางสาวปิยะนาถ อายุ 29 ปี และ เด็กหญิงอัจฉรา อายุ 14 ปี โดยทั้งหมดรักษาตัวอยู่ที่รพ.ค่ายจักรพงษ์
ในที่เกิดเหตุพบว่ารถยนต์ชนกับต้นปีปอย่างแรงก่อนจะกระแทกและครูดไปกับเกาะกลางถนนไกลกว่า 10 เมตรจนสภาพรถพังยับเยิน โดยก่อนหน้านี้ ทั้งหมดได้ไปดื่มฉลองกันในโอกาสวันเกิดของนายณัฐพลในสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ระหว่างทางกลับบ้านใกล้จุดเกิดเหตุเป็นทางโค้ง คาดว่าน่าจะขับมาด้วยความเร็วและเกิดเสียหลักแหกโค้งจนคนในรถทั้งหมดกระเด็นออกมานอกตัวรถ
5G เทคโนโลยีโครงข่ายการสื่อสารแบบไร้สายแห่งอนาคต(อันใกล้นี้) ที่มีความเร็วกว่า 4G ที่เราใช้อยู่ในปัจจุบันเป็นสิบๆเท่า หัวเมืองใหญ่ๆของโลกที่มีความล้ำหน้าทางเทคโนโลยี ก็ได้เริ่มมีการติดตั้งและทดสอบระบบสัญญาณ 5G กันบ้างแล้ว ซึ่ง กรุงเทพฯก็เป็นหนึ่งในนั้น
5G ในบ้านเราที่มีการทดสอบกันนี้เป็นของเครือข่าย AIS โดยการทดสอบร่วมกับสมาร์ทโฟนของ Huawei รุ่น Mate 20x 5G (ผลการทดสอบ คลิก) แต่วันนี้เราจะพาไปดูผลการทดสอบจากเมืองใหญ่ต่างๆทั่วโลกกันว่า 5G ของพวกเขามีความแรงขขนาดใหนกัน
อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยี 5G ที่แต่ละเมืองใช้นั้นไม่เหมือนกัน โดยหลักๆจะมีอยู่สองแบบคือ SA(Stand Alone) และ NSA(Non-Stand Alone) พูดให้เข้าใจง่ายๆคือ SA ไม่ต้องใช้โครงสร้างของ 4G/LTE เข้ามาช่วยและสามารถใช้ความถี่แบบ mmWave (Millimater Wave)ได้ ส่วน NSA ต้องมีโครงสร้างของ LTE มาเป็นตัวช่วย และส่วนมากจะใช้ในความถี่แบบ Sub-6GHz ซึ่งทั้งสองนี้ก็มีความสามารถแตกต่างกันออกไป
โผล่อีก! ผอ.โรงเรียนในนครศรีธรรมราช ถูกสั่งย้ายด่วนกรณีข้าวกลางวันมีแต่เศษผัก
หลังจากที่เพจ ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน ได้มีการเผยแพร่คลิปวีดิโอที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในจ.นครศรีธรรมราช ให้เด็กนักเรียนกินอาหารกลางวันเป็นต้มจืด มีเพียงเศษผักและแตงโม 1 ชิ้น วานนี้ (1 ก.ค.) ทั้งที่มีการจ้างเหมาทำอาหารกลางวันทั้งปีรวม 200 วัน เป็นราคาถึง 7,039,500 บาท ซึ่งตกวันละ 35,197.5 บาท ส่งผลให้ล่าสุด มีคำสั่งย้ายผู้อำนวยการโรงเรียน เป็นการชั่วคราวไปก่อน เพื่อให้ทางคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยให้รายงานผลการสอบให้ทราบภายใน 7 วัน
ด้านผู้รับเหมาทำอาหาร นางสุรีย์ ภิญโญรัตนโชติ ร้องว่า ตนเป็นแพะรับบาป และถูกกลั่นแกล้งจากคู่แข่งทางธุรกิจ ที่เจตนาถ่ายคลิปอาหารกลางวันที่ใกล้จะหมด มาเผยแพร่เพื่อให้เสียชื่อเสียง ตนนั้นเพิ่งจะมารับเหมาทำอาหารกลางวันช่วงปลายเทอมที่ผ่านมา และแต่ละวันยืนยันว่าทำตามเมนูและปริมาณตามสัญญาว่าจ้างของเทศบาลฯ และอาหารกลางวันแต่ละวันมีคณะกรรมการตรวจสอบทุกครั้ง
ขณะที่ นายครรชิต มนูญผล รองนายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช เผยว่า โรงเรียนในสังกัดเทศบาลนครนครศรีธรรมราชนั้นจะมีคณะกรรมการตรวจสอบอาหารกลางวันทุกวันอย่างต่อเนื่อง และควบคุมเรื่องปริมาณ และความสะอาดตามสัญญาว่าจ้างที่ว่าจ้างผู้รับเหมา
นายครรชิตคาดว่า เรื่องในคลิปนั้น น่าจะเกิดจากการที่เจ้าหน้าที่เวรตักอาหารพลั้งมือตักให้นักเรียนห้องแรกๆ เยอะไปทำให้เหลืออาหารให้ห้องท้ายๆ น้อย ซึ่งตนก็ได้เน้นย้ำกับเจ้าหน้าที่เวรและครูให้ตักในปริมาณที่เหมาะสมเท่าๆ กันทุกคน
ส่วนทางผู้ว่าฯ จําเริญ ทิพญพงศ์ธาดา นั้น เผยว่าตนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบอาหารกลางวันเด็ก พบว่ามีการทำอาหารจำนวนหลายหม้อ ปริมาณเป็นไปตามปกติ และถูกหลักโภชนาการ ครบ 5 หมู่
credit : kanavaklassikko.com klasaa.net klgwd.net klintagarden.com klorimierdesign.com kopacialissverige.com larissaridesforcleanair.org lasixgenericnoprescription.net lectoradosdegalego.com